สารแต่งกลิ่นและรส สารในบุหรี่ไฟฟ้า

สารแต่งกลิ่นในบุหรี่ไฟฟ้า สารอีกหนึ่งตัวที่ขาดไม่ได้เลย คือสารแต่งกลิ่นนั้เนอง สารตัวนี้ก็เป็นสารสำคัญของวงการอาหารเลยล่ะ เพราเรียกได้ว่าต้องใช้อยู่ตลอดเวลา แล้วสารตัวนี้มีอันตรายไหม ก็อย่างว่านะถูกใช้มาอย่างยาวนาน แทนที่สารแต่งกลิ่นที่มีอันตรายในสมัยหนึ่ง เพราะฉะนั้นเจ้านี้ก็ต้องเป็นสารที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นสารที่ไม่มีอันตรายกับร่างกายเลย

สามารถนำไปผสมกับอาหารชนิดใดบนโลกนี้ก็ได้ กินได้ปลอดภัยหายห่วง ดังนั้นแล้ว ไม่แปลกที่จะไม่ต้องมีสารแต่งกลิ่นประเภทอื่นโผล่ขึ้นมาอีกแล้ว ตัวเดียวใช้ได้ทั่วโลก ตัวเดียวใช้ได้ทุกประเภท แม้แต่ของที่ไม่ได้เอาไว้กินก็ใช้ได้ ซึ่งมันสะดวกสบายมากๆ เพราะในสมัยก่อนอันเก่าแก่นั้น การจะทำสารแต่งกลิ่นจากธรรมชาตินั้นยากเย็นยิ่งนัก ต้องนำมาจากดอกไม้และผลไม้มาสะกัดกันแบบบ้านบ้าน

ใช้เยอะมากกว่าจะได้ออกมาเพียงนิดเดียว แต่นั้นก็ทำให้ขนมไทยบ้านเรามีรสชาติที่นุ่มนวลและโด่งดังนะ อย่างไรก็แล้วแต่ การทำนำยาบุหรี่ไฟฟ้าก็คงไม่มีทางเลือกที่จะต้องใช้สารตัวนี้มาแต่งกลิ่นและรสชาติ เพราะว่าให้ไปใช้แบบธรรมชาติก็คงเป็นชาติที่จะผลิตออกมาให้พอใช้กับนักสูบทุกคนบนโลก

ถึงสารตัวนี้จะได้รับการยอมรับจากองค์กรณ์ต่างๆมาแล้วก็ตาม แต่ก็เช่นเดิม แล้วเมื่อบริโภคมันในรูปแบบควันล่ะ ที่ลงปอดโดยตรง มันจะเป็นอย่างไร นั้นคือคำถามที่ยังไม่ได้รับคำตอบอยู่ดี ยังไม่มีงานวิจัยใดๆมาซับพอร์ทเรื่องนี้เลย เราต้องเข้าใจกันก่อนนะว่า กระเพาะเรา ถูกออกแบบมาให้รับการกินอาหารทั้งดีทั้งไม่ดีได้เยอะแยะไปหมด

มีผนังที่หน้าตับ มีกรดคอยย่อยอาหาร มีจุลินทรีย์คอยทำลายแบตทีเรียต่างๆ มีอะไรอีกมากมาย และสุดท้ายมันก็วิ่งออกทางลำไส้ไปได้ แต่กับปอดแล้ว มันถูกออกแบบให้สูดเพียงอากาศบริสุทธิ์เท่านั้นนะ เพียงแค่การสูดอากาศที่มีสารปนเปื้อนต่างๆทั่วไป หรือฝุ่นอะไรก็แล้วแต่ ยังส่งผลเสียต่อปอดและลามมายังสุขภาพเราเสมอๆเลย

แล้วก็ของที่เรานำมาสูดเพิ่มอย่างน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าล่ะ ที่แปลงตัวเป็นไอ เข้าปอดโดยตรงของเรา จะยิ่งไม่แย่กว่าหรอ นั้นแหละ ควรจะต้องเก็บไปคิดกันสักหน่อย อย่างไรก็ตาม วันนึงจะมีคำตอบเกี่ยวกับสารเหล่านี้แน่นอน ว่ามีผลอะไรไหม อย่างว่าอย่างงั้นอย่างนี้เลย การที่ได้รับสารแต่งกลิ่นนี้มากเกินไปก็มีผลต่อระบบทางเดินหายใจบางรายเหมือนกันนะ ก็ยังเลยเป็นอะไรที่ขึ้นอยู่กับสุขภาพของผู้สูบอีกด้วย เพราะบางคนเพียงสูบแปปเดียวก็เป็นนู้นนี่ได้ได้เลย

 

 

สนับสนุนโดย  gclub

ลูกเกด เมทินี กิ่งโพยม หนึ่งในดาราที่เลิกบุหรี่ได้จริง

หนึ่งในดาราที่เลิกบุหรี่ได้จริง แม่มาเองเลยทีนี้ สุดยอดหนึ่งในดาราสาวไทยที่เป็นดั่งตัวแม่แล้วในขณะนี้ เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดนางแบบคนนึงของประเทศเลยทีเดียว งานก็มีตั้งแต่สมัยสาวๆ จนถึงทุกวันนี้ก็มีงานไม่หยุดหย่อน ก็ไม่รู้จะรวยไปถึงแล้วกันแล้วล่ะ ถึงอย่างไรก็ตาม เจ๊ลูกเกดคนนี้ก็เคยเป็นนักเที่ยวสังสรรค์เหมือนกัน แหม่ก็อยู่กับวงการบันเทิงแบบนี้ แถมสายรุ่นใหญ่ด้วย

เธอนั้นผ่านมาหมดแล้วสำหรับการเที่ยวกลางคืนติดต่อกัน ดื่มเหล้าไม่ยั้ง สูบบุหรี่มวนต่อมวน ถึงอย่างนั้นก็ตาม เจ๊ลูกเกดเราก็ยังดูแลตัวเองเป็นอย่างดีจนมองไม่ออกกันเลยทีเดียวว่าเป็นคนที่ทำอย่างนั้นได้ทุกวัน อย่างว่านะ นี่คือภาพมายาวงการบันเทิงยังไงล่ะ เจ๊แกก็คงมีโมเมนที่ส่องกระจกแล้วเห็นตัวเองทรุดโทรมลงบ้างแหละ

แต่การบิวร่างกายของนางก็ทำให้นางมีออร่าอยู่เสมอๆ ในวันนี้ด้วยอายุที่เยอะมากแล้ว แต่ก็ยังสวยสุดๆอยู่เลย เธอกันได้เลิกทุกอย่างแล้วล่ะ เพื่อที่จะหันมาสนใจการดูแลสุขภาพของนางให้ยังสวยใสได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเธอยังคงเป็นไอดอลตัวแม่ของเหล่านางแบบในประเทศของเรา ด้วยการเป็นเมนเทอร์ให้กับรายการ สุดยอดการเฟ้นหา นายแบบและนางแบบ

เธอนั้นได้ออกมาพูดถึงว่าเธอเคยทำอะไรไปบ้าง ก็คือการที่อยู่ในวงการแบบนี้มันยากนักที่จะหลีกเลี่ยง เธอจึงทำมาหมดแล้วล่ะ ดื่มสูบ วันนึงพอคิดขึ้นได้ว่าเรานั้นยังต้องสวยต่อไปไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม สิ่งนี้จึงเป็นยาพิษร้ายทำลายความสาวของเธอได้เลย ดังนั้นแล้วเป็นการตัดสินใจที่เฉียบขาดในการเลิกทุกอย่างแล้วออกกำลังกายอย่างจริงๆจังๆสักที

ดังนั้นแล้ว เป็นไปได้ว่าเราจะเห็น คุณแม่เกดนี้ยังเป็นเจ้าแม่แห่งความเปี๊ยะไปอีกนานเลย ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้เป็นแฟนตัวยงอะไรของเธอมากนัก แต่ก็ยอมรับเลยว่าในหัวนั้นคิดว่าเธอคือรุ่นใหญ่แห่งวงการบันเทิงมาตลอดอย่างไม่ต้องสงสัยเลย เพราะนั้นแหละเขาถึงเป็นตำนานได้ยังไงล่ะ

ด้วยความที่เธอโด่งดังขนาดนี้ มันยากที่จะหลีกหนีพ้น แตะก็ไม่สายเกินไปที่จะลดละเลิกแล้วกลับตัวมา ดูแลสุขภาพให้อยู่กับเราไปอีกนานๆ ตอนนี้เธอทำได้แล้ว ก็คงต้องลุ้นกันต่อไปกับดาราสาวสวยที่ยังคงสูบบุหรี่อยู่ว่า เมื่อไหร่เขาเหล่านั้นจะเลิกได้อย่างคุณแม่เกดนี้ ไม่งั้นจะแก่เกินกว่าคุณแม่เกดแล้วนะ

 

สนับสนุนโดย  สมัคร Sagame ฟรี

คนทำงานกลางคืน ลดน้ำหนักกันยังไงนะ

คนทำงานกลางคืนลดน้ำหนักกันยังไง คนบางคนเลือกทำงานในช่วงกลางวันไม่ได้ เนื่องจากการทำงานของเค้าคือช่วงกลางคืน แล้วจะทำอย่างไรเพื่อควบคุมหุ่นไม่ให้อ้วนดีละ เพราะยิ่งอยู่ดึกก็ยิ่งหิว อยากจะหาอะไรกินตลอดเวลา กินไปด้วยทำงานไปด้วย พอทำงานเสร็จก็เข้านอน แล้วแบบนี้จะลดน้ำหนักได้ยังไง วันนี้ทางเรามีวิธีการแนะนำสำหรับคนอยากลดน้ำหนักสำหรับคนทำงานกลางคืนมาฝากกัน เพราะจริงๆทำงานกลางคืนก็ยังลดได้อยู่นะ 

วิธีการดูแลหุ่นและลดน้ำหนักของคนกลางคืน มีสิ่งที่ ควรทำ และ ไม่ควรทำ ที่ถ้าคุณรู้แล้วน่าจะช่วยขึ้นขึ้นเยอะเลย

สิ่งที่ควรทำ

  1. ควรเตรียมอาหารเอง คือ คุณอาจจะเสียเวลาสักนิดในการหาอาหารหรือทำอาหารที่ดีต่อสุขภาพที่คุณจะต้องกินยามเพื่อคุณหิวระหว่างการทำงานกลางคืน ยกตัวอย่างเช่น สลัดอกไก่ย่าง ไข่ต้มและขนมปังโฮลวีท ข้าวกล้องและไข่ตุ๋น ปลาย่างและน้ำพริก อาหารที่ทำให้คุณอิ่มท้องนานและแคลอรีไม่เยอะ คุณควรงดอาหารจำพวกที่ผ่านการทอดหรือผัด รวมไปถึงควรงดน้ำหวานและขนมหวานด้วย
  2. ควรดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ เพราะบางทีที่คุณหิว ไม่ได้แปลว่าร่างกายคุณหิวอาหาร เพียงแต่ร่างกายของต้องการน้ำ ถ้าคุณลองดื่มน้ำมากๆช่วงคุณหิว และรอสักพักแล้วไม่ได้รู้สึกอยากอาหารอีก แสดงว่าร่างกายคุณแค่หิวน้ำเท่านั้น และการที่ดื่มน้ำมากๆระหว่างทำงานกลางคืนยังช่วยให้คุณสดชื่นและคลายความง่วงได้อีกด้วยนะ 

 

  1. ควรจะเลือกกินโปรตีนให้มากกว่าอย่างอื่น เพราะการที่คุณกินโปรตีนในสัดส่วนมากกว่าสิ่งอื่นจะทำให้คุณมีพลังงานที่ดีกว่าการกินแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต หรือไขมันเข้าไปเพราะโปรตีนสามารถทำให้คุณอิ่มนานขึ้นในแคลอรีที่ไม่ได้เยอะจนเกินไป อิ่มด้วยและได้ประโยชน์ในเวลาพร้อมๆกันอีกด้วย
  2. ควรเลือกของว่างดีๆระหว่างที่ทำงานแล้วหิวขึ้นมา ยกตัวอย่างเช่น กล้วยหอมหรือแอปเปิ้ลเขียวสัก 1 ลูก หรือ โยเกิร์ตสัก 1 ถ้วย หรือ ถั่วต่างๆสัก 1 กำมือ แค่นี้ก็ช่วยให้คุณมีพลังงานทำงานต่อและช่วยให้คุณไม่อยากอาหารมากขึ้นแล้วละ

 

สิ่งที่ควรเลี่ยง

  1. ควรงดหรือเลี่ยงอาหารฟาสต์ฟู้ด เพียงเพราะมันง่ายต่อการหามากิน หรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพราะถึงคุณจะกินสิ่งเหล่านี้แล้วอิ่ม แต่อาหารเหล่านี้ล้วนไม่มีประโยชน์ใดๆกับร่างกาย และยังมีแคลอรี่สูง ซึ่งทำให้คุณมีโอกาสเผาผลาญพลังงานไม่หมดก่อนที่จะนอน และนี่เองก็เป็นสาเหตุในการลดน้ำหนักของคุณยากเหลือเกิน
  2. ควรเลี่ยงน้ำหวาน ชา กาแฟ ในช่วงทำงานกลางคืน เพราะการกินน้ำหวาน เข้าไปคือการกินน้ำตาลดีๆนี่เอง มันจะเพิ่มแคลอรี่มหาศาลให้คุณโดยไม่รู้ตัว ส่วนชาและกาแฟที่คุณควรเลี่ยง ถ้าไม่ง่วงจัดๆระหว่างทำงาน คุณอย่าคิดจะกินมันเลย เพราะการที่คุณกินชาและกาแฟนั้นเข้าไปจะทำให้ร่างกายคุณได้รับสารคาเฟอีน ซึ่งจะมีผลกับคุณเองหลังเสร็จงาน คุณอาจจะนอนไม่หลับ หรือ หลับแต่ร่างกายไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

ถ้าคุณที่ทำงานช่วงกลางคืนได้ลองหันมาทำแบบนี้ดูละก็ รับรองไม่มีอ้วนขึ้นแน่นอน

 

 

สนับสนุนโดย  วิธีเล่นบาคาร่าให้บวก

แทบไม่เหลือสารก่อมะเร็ง หนึ่งในสิ่งที่เป็น Vaporizers

สารก่อมะเร็ง เรื่องนี้เป็นประเด็นของคนที่สนใจเจ้าเครื่อง Vaporizers อย่างมาก นั้นก็คือ เรื่องความปลอดภัยของตัวนี้ เพราะทุกเคยต่างคุ้นเคยกับคำว่าการสูบควันจากบุหรี่มวนนั้น ควันของมันเป็นสิ่งอันตรายอย่างมาก รวมถึงการมีสารก่อมะเร็งหลายชนิดมากๆ แล้วก็พิสูจน์ออกมาแล้วแหละว่าการสูบบุหรี่มวนนั้นทำให้เกิดเป็นมะเร็งอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ตาม

แล้วกับบุหรี่ไฟฟ้าล่ะ นี่คงสงสัยกันเข้าไปอีกว่า Vaporizers นี้จะต่างจากบุหรี่ไฟฟ้าใหม่ ก็ในเมื่อมันออกมาเป็นไอระเหยของน้ำเช่นเดียวกัน แต่นั้นแหละ เราจะมาลงลึกกันตรงนี้ว่า มันต่างกันอย่างยิ่งด้วยเช่นเดียวกัน

ถ้าเทียบกับควันบุหรี่มวนแล้ว จะค่อนข้างชัดเจนก็คือ บุหรี่มวนได้ควันจากการเผาไหม้ของไฟที่ลุกไหม้ทั้งใบสูบแล้วก็กระดาษมวน มันเป็นอะไรที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ด้วยควันเผาไหม้แล้วก็ไอระเหย ก็แตกต่างกันเหมือนกับบุหรี่มวนกับบุหรี่ไฟฟ้านั่นแหละ โดยที่ระดับความอันตรายของบุหรี่มวนกับเครื่องนี้คิดเป็นความอันตรายที่ต่างกันถึง 95เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียวแหละ

ฃแต่กับบุหรี่ไฟฟ้านั้น มีความต่างกันอาจจะไม่มาก เพราะเป็นระดับเดียวกัน อย่างเรื่องไอระเหยก็เป็นประเภทเดียวกันเลย แต่ว่ามันมีความแตกต่างกันอย่างมากเรื่องของเทคโนโลยี เพราะว่าสำหรับบุหรี่ไฟฟ้าใช้เทคโนโลยีอย่างง่ายๆไม่ซับซ้อนมาก อย่างเรื่องของการใช้คอยล์ให้ความร้อนน้ำยาให้ระเหยกลายเป็นไอ แต่กลับเครื่อง Vaporizers นั้นเป็นเครื่องที่มีเทคโนโลยี ที่ขั้นสูงขึ้นมาเพื่อไม่ทำให้เกิดไอระเหย

ซึ่งต่างการใช้ความร้อนเพรียวๆโดยตรงจากคอยล์นั้นเอง เรียกได้ว่านำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้เกิดผลลัพท์ที่ดีที่สุด โดยทำการทดสอบหลายๆวิธีเพื่อให้ได้ไอระเหยที่มีความอันตรายน้อยที่สุดนั้นเอง แต่กับในบุหรี่ไฟฟ้าที่มีงบการผลิตไม่ได้เยอะ ก็เลยยังไม่มีการทำเทคโนโลยีระดับนี้มาใช้ ถึงอย่างนั้นเจ้าบุหรี่ไฟฟ้าก้ใช่ว่าจะมีอันตรายที่พิสูจน์ได้แล้วขนาดนั้น แต่ก็จงจำไว้ว่าเครื่อง Vaporizers นั้นก็ยังอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ไฟฟ้าเยอะเลยทีเดียว

กับการที่มันเป็นไอระเหยที่อัดแน่น ถ้าสูบโดยใช้สายโดยตรงเหมือนกับการดูดบารากุ อาจจะไม่ต่างกันมาก เพราะอัดควันเข้าปอดแบบเต็มๆ แต่กับการปล่อยเป็นไอระเหยในห้องนี้ อาจจะเรียกได้ว่าไม่หลงเหลืออันตรายเลยก็เป็นได้ ไม่เช่นนั้น โรงพยาบาลคงไม่กล้าที่จะที่จะเอามาใช้พ่นไอลมควันผู้ป่วยต่างๆแบบนี้ เพราะฉะนั้นแล้วถ้าคิดจะซื้อมาใช้ปล่อยไอระเหยในบ้าน ก็มั่นใจได้เลยว่าไม่สร้างอันตราย แต่ก็ต้องไปว่ากันเรื่องของน้ำยาที่ใส่ด้วยล่ะ

 

สนับสนุนโดย  คาสิโนออนไลน์ได้เงินจริง