ดูแลตับให้ไกลห่างเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และตัวช่วยดี ๆ อย่างเห็ดหลินจือแดง

ดูแลตับ เชื้อไวรัสตับอักเสบบี โรคที่ได้ยินมานาน แม้กระนั้นหลาย ๆ คน ไม่ให้ความใส่ใจเท่าไรนัก อาจเกิดขึ้นจากไม่เคยรู้ว่า โรคเชื้อไวรัสตับอักเสบ อันที่จริงแล้วจัดเป็นโรครุนแรงประเภทหนึ่ง หากแม้ลักษณะของโรคจะไม่ร้ายแรง แต่ว่าก็สามารถมีผลกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดตับอักเสบเรื้อรังตามมา และก็เป็นต้นเหตุ ของโรคมะเร็งตับได้ วันนี้พวกเราจะพาทุกท่านมารู้แนวทางในการดูแลตนเอง ให้ไกลห่างจากเชื้อไวรัสตับอีกเสบบีกัน

– ฉีดยาคุ้มครองปกป้อง โรคเชื้อไวรัสตับอักเสบบี สามารถคุ้มครองปกป้องได้โดยการฉีดยา โดยปกป้องให้ห่างไกลจากเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ในรายที่ยังไม่เจอการได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และไม่มีภูมิต้านทานโรค

– หลบหลีกความประพฤติปฏิบัติเสี่ยง อาทิเช่น การเจาะ สักผิวหนัง การใช้ของมีคมร่วมกับคนอื่น ๆ ดังเช่น มีดโกน ที่ตัดเล็บ ฯลฯ

– หลบหลีกเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ควรจะงดเว้นดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เหตุเพราะจะทำลายตับ

– บำรุงด้วยสมุนไพร เลือกกินสมุนไพรที่ช่วยบำรุงตับ ยกตัวอย่างเช่น เห็ดหลินจือแดง มีสรรพคุณช่วยลดความอักเสบที่ตับได้โดยตรง ช่วยลดการเกิดภาวการณ์พังผืดในตับ แล้วก็ยังช่วยสร้างเสริมภูมิต้านทาน ต่อต้านเชื้อไวรัสได้อีกด้วย

– ไม่สัมผัสกับเลือด หรือสารคัดเลือกหลั่ง ไม่จับแตะต้องกับเลือด และสารคัดหลั่งจากผู้ติดเชื้อ

– ทานอาหารที่มีประโยชน์ เลือกทานอาหารที่เป็นประโยชน์ นอนเยอะ ๆ

– บริหารร่างกาย หมั่นบริหารร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่หักโหม

– ตรวจร่างกาย อัลตร้าซาวด์และก็ตรวจเช็คสุขภาพทุก ๆ ปี

 

เห็ดหลินจือแดงปกป้องตับ

สมุนไพรที่ชาทางการแพทย์แผนจีนมาเนิ่นนาน มีการประยุกต์ใช้ เพื่อรักษาภาวการณ์ตับอักเสบเรื้อรัง จากข้อมูลการวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์ พบว่าสารพอลิแซ็กคาไรด์ รวมทั้ง ไตรเทอร์ปินนอยด์ สารสำคัญในเห็ดหลินจือแดง มีคุณลักษณะช่วยปกป้องรักษาตับ

 

การวิจัยในคนป่วยโรคเชื้อไวรัสตับอักเสบบี พบว่า เห็ดหลินจือแดงมีประสิทธิภาพที่ช่วยดูแลตับได้หลายอย่างดังต่อไปนี้

 

– ทำลายเชื้อไวรัส ก่อนไปสู่เซลล์ โดยกระตุ้นรูปแบบการทำงานของระบบภูมิต้านทาน

– ยั้งการเพิ่มปริมาณของเชื้อไวรัสในเซลล์

– ช่วยกระตุ้นแนวทางการทำงานของ Antioxidant Enzymes เช่น ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระในเซลล์ ลดอาการบาดเจ็บ การอักเสบของเซลล์

– ช่วยทำให้ขั้นตอนเมตาบอลิซึม รวมทั้งการสังเคราะห์โปรตีนปกติ

– ช่วยรักษาสมดุลลักษณะการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี INOS และก็การสังเคราะห์ Nitric Oxide 

– ช่วยเรื่องสภาวะโรคตับดีซ่าน

– ลดการอักเสบของเซลล์ตับ นำมาซึ่งการทำให้สมดุลการผลิตคอลลาเจนในเซลล์กลับสู่ภาวการณ์ธรรมดา ลดการเกิดภาวการณ์พังผืดในตับ

 

สนับสนุนโดย.  แจ้งฝาก-ถอน ufabet

งีบนานแค่ไหน ถึงจะทำให้รู้สึกสดชื่น

งีบนานแค่ไหนถึงสดชื่น ในระหว่างวันเราคงรู้สึกง่วงมาก ๆ แต่ถ้าจะให้หลับยาว ๆ เลย คงเป็นไปได้ยาก เพราะบางทีก็ตื่นมาแล้วรู้สึกไม่ค่อยสบาย หรือบางคนก็อาจจะไม่มีเวลาที่จะได้นอนยาว ๆ ทางออกก็คือ การงีบ แล้วเราควรจะงีบกี่นาทีถึงจะดี หลายท่านบางทีก็อาจจะเคยรู้สึกอยากนอนในช่วงกลางวัน รวมทั้งผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยก็เพียรพยายามต่อสู้กับความง่วงซึม รวมทั้งบางทีอาจพบความข้องใจว่า นอนกี่นาทีถึงจะดี

หลาย ๆ คนบางครั้งก็จะต้องเผชิญกับความง่วงซึม และอยากทที่จะปลุกตนเองให้ตื่นด้วยแนวทางต่าง ๆ ได้แก่ การดื่มกาแฟ การดื่มเครื่องดื่มที่ช่วยกระตุ้นให้สดชื่น ล้างหน้า ฯลฯ แต่ว่าทราบหรือเปล่าว่าอันที่จริงแล้วการงีบนั้นเป็นแนวทางที่จะช่วยให้คุณหายง่วงได้ดีที่สุด สามารถช่วยให้พวกเรารู้สึกมีชีวิตชีวาได้ รวมทั้งหากต้องการจะให้เห็นผลสุด ๆ การงีบจึงควรอยู่ในช่วงเวลาที่สมควรนั่นเอง

วงจรการนอนแบ่งได้ 4 ระยะ

  1. ระยะอันดับที่หนึ่งเป็นช่วงเวลาที่เปลี่ยนจากการตื่นไปสู่การนอน ในช่วงนี้หากถูกทำให้ให้ตื่นจะมีผลให้คิดว่าได้นอนน้อย
  2. ระยะลำดับที่สองเป็นช่วงของการนอนอย่างแท้จริง หรือเป็นช่วงที่เราหลับตื้น ๆ ที่ยังไม่มีการฝัน ก็เลยทำให้การหลับในเวลานี้สามารถถูกปลุกให้ตื่นได้อย่างง่ายดาย
  3. ระยะลำดับที่สามเป็นตอนที่หลับลึกลงไป และก็เป็นระยะที่เริ่มจะปลุกให้ตื่นออกจะยากขึ้น ซึ่งถ้าหากว่าถูกปลุกจะมีผลให้รู้สึกง่วงหงาวหาวนอน
  4. ระยะลำดับที่สี่จะเป็นช่วงเวลาที่หลับลึกที่สุดรวมทั้งช่วงนี้เป็นระยะที่ปลุกยากที่สุด ซึ่งในเวลานี้เองจะเป็นตอนที่มีการฝันเกิดขึ้น

 

ควรจะงีบกี่นาทีถึงจะยอดเยี่ยม

  1. การหลับ 10-20 นาที จะรู้สึกไม่งัวเงีย แล้วก็จะรู้สึกว่ามีแรง ในตอนนี้จะถูกทำให้ตื่นได้ง่าย
  2. การนอน 30 นาที แต่สำหรับในการงีบนาน 30 นาที ถ้าเกิดทำให้ตื่นมาจะพบว่ามีลักษณะเสมือนการมึน ๆ ซึ่งส่งผลให้ตัวเราเองรู้สึกเฉื่อยๆ อ่อนเพลีย ไม่ประปรี้ประเปร่า
  3. การนอน 60 นาที ระยะนี้การนอนจะส่งผลต่อคลื่นสมองเป็นระยะเวลาการหลับแบบมีคุณภาพ เพราะหลับลึก ส่งผลต่อความจำทำให้จำข้อมูลต่าง ๆ ก้าวหน้าขึ้น แต่ว่าการตื่นของระยะเวลานี้จะรู้สึกงัวเงีย และก็ตื่นยากกว่าธรรมดา
  4. การนอน 90 นาทีหรือการครบวงจรการหลับ เดี๋ยวนี้เป็นการหลับที่บริบูรณ์ สมองจะได้พักเต็มกำลัง ช่วยในเรื่องของความจำ ความสร้างสรรค์ รวมทั้งยังมีผลให้ร่างกายนั้นแจ่มใสอีกด้วย

 

งีบนานแค่ไหนถึงสดชื่น รู้เช่นนี้แล้ว เพื่อน ๆ อยากงีบนอนนานสักแค่ไหนกันบ้าง แต่ว่าทางที่ดีที่สุดก็ควรที่จะพักผ่อนให้มาก ๆ และเข้านอน-ตื่นนอนให้ตรงเวลาชีวิต เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับสุขภาพของเราเอง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  ทางเข้า ยูฟ่าเบท มือถือ

เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ดีต่อสุขภาพจริงหรือ?

ถ้าเกิดคุณเป็นคน ๆ หนึ่งที่กำลังลดความอ้วน แล้วก็ได้กระทำการควบคุมเรื่องของการรับประทานอาหารแล้ว เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ  อีกสิ่งหนึ่งที่พึงจะต้องระมัดระวังก็คือเครื่องดื่ม เนื่องจากว่าเครื่องดื่มบางจำพวกกให้น้ำตาลสูงและไม่ดีต่อร่างกายด้วย วันนี้พวกเราจะมาดู 10 เครื่องดื่มที่ควรจะระวังในการควบคุมน้ำหนัก

– น้ำผลไม้

เนื่องจากว่าน้ำผลไม้ส่วนมากเต็มไปด้วยน้ำตาล เว้นเสียแต่จะเป็นน้ำผลไม้ที่ติดฉลากไว้ว่า เป็นน้ำผลไม้แท้ 100%

 

– กาแฟเย็นโปะวิปครีม

กาแฟเย็น โปะวิปครีมรสละมุนลงไป ช่างอร่อยถูกปากมาก ๆ แม้กระนั้นทราบไหมว่า กาแฟที่เพิ่มวิปครีมแก้วหนึ่ง จะให้พลังงานได้มากถึง 800 แคลอรี่ และเมื่อรวมกับน้ำตาลอีกจะบวกเพิ่มไป 170 กรัม ถ้าเป็นไปได้ทดลองหันมาสั่งกาแฟใส่นมไขมันต่ำ ลดไซรัปลงกึ่งหนึ่ง และไม่ต้องเพิ่มวปครีม หรือเลือกเป็นกาแฟดำไปเลย คงจะดีมากยิ่งกว่า

 

– น้ำปรุงกลิ่นแล้วก็รส

น้ำกินปรุงกลิ่นรวมทั้งรสมักมีการผสมวิตามิน หรือสารบางสิ่งเพิ่มเข้ามา อาทิเช่น เพิ่มวิตามินซี เพิ่มแอลคานิทีน ฯลฯ ทำให้มีความรู้สึกว่าเป็นน้ำดื่มที่ดีต่อร่างกาย แม้กระนั้นความเป็นจริงแล้วพวกมันจำนวนมากก็ผสมน้ำตาลเทียมมาด้วยไม่น้อย

 

– น้ำโซดา

การบริโภคน้ำโซดาเกินความพอดีมีส่วนเกี่ยวข้องบางประการกับความอ้วน แต่ว่าถ้าหากนาน ๆ ครั้งจะรับประทานสักหนึ่งครั้งก็ไม่ได้ส่งผลให้เกิดความอ้วน

 

– มิกเซอร์

บรรดามิกเซอร์สารพัดสารพันประเภทที่บาร์สุราล้วนมีน้ำตาลผสมอยู่ แล้วก็มีการแต่งกลิ่นแล้วก็ใส่สีสังเคราะห์ด้วย

 

– สมูทตี้ผลไม้ 

สมูทตี้ผลไม้ ฟังชื่อแล้วมันช่างดีต่อร่างกาย แต่ว่าทราบไหมว่าบรรดาสมูทตี้พร้อมดื่มทั้งหลายแหล่ใส่น้ำตาลผสมมาเป็นว่าเล่น ถ้าอยากได้สมูทตี้ที่ดีต่อร่างกายจริง ๆ สักแก้ว ปั่นรับประทานเองที่บ้านจะยอดเยี่ยม เพราะว่าคุณสามารถควบคุมจำนวนน้ำตาล หรือควบคุมองค์ประกอบต่าง ๆ ได้

 

 – สุรา

สุราเพียงแค่ 2 แก้ว ก็เพิ่มการเสี่ยงให้ท่านเข้าเกณฑ์น้ำหนักตัวเกินได้แล้ว แถมยังทำให้เกิดผลเสียและไม่ดีต่อสุขภาพ อีกต่างหาก ด้วยเหตุผลดังกล่าวจะดื่มแต่ละคราวก็ควบคุมจำนวนด้วยจะดีที่สุด

 

– เครื่องดื่มเสริมเกลือแร่

ทราบไหมว่าเครื่องดื่มเสริมเกลือแร่สำหรับนักกีฬารวมทั้งผู้เสียเหงื่อนั้น มีน้ำตาลรวมทั้งสารกันเสียผสมอยู่ไม่น้อย

 

– เครื่องดื่มเสริมพลังงาน

เครื่องดื่มเสริมพลังงานที่รับประทานแล้วชื่นบานทันใจ ก็มีน้ำตาลผสมอยู่ไม่น้อย แถมยังมีคาเฟอีนอีกด้วย ที่ฉลากก็เลยมีการเตือนว่า ห้ามดื่มเกินวันละ 2 ขวด  

 

น่าตกใจจริง ๆ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ  ที่เครื่องดื่มบางจำพวกที่ดูแล้วน่าจะดีต่อร่างกาย ตัวอย่างเช่น น้ำผลไม้ หรือสมูทตี้ กลายเป็นเครื่องดื่มที่คนที่ควบคุมน้ำหนักจำต้องให้ความรอบคอบเป็นพิเศษ ดังนั้นควรจะมีสติสำหรับในการเลือกเครื่องดื่มกันให้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ การหันไปกินน้ำสุดคลาสสิคอย่างน้ำเปล่าธรรมดา แล้วก็รับวิตามินจากผักผลไม้ใหม่ ๆ ที่หวานน้อย คงจะดีกับสุขภาพของคุณมากกว่า

 

สนับสนุนโดย.  แจ้งฝาก-ถอน sbobet

แก้พฤติกรรมเสี่ยงออฟฟิศซินโดรม และการนอนดึกที่ส่งผลให้อ้วนขึ้น

แก้พฤติกรรมเสี่ยงออฟฟิศซินโดรม ตอนนี้โรคออฟฟิศซินโดรมนั้นสามารถพบได้บ่อยขึ้นในทุก ๆ วัน เพราะมีความประพฤติการใช้โซเชียลและก็ออนไลน์ ซึ่งชอบเผลอก้ม งอคอ ห่อไหล่ เมื่อมองจอ หรือทำท่าทางที่ไม่เหมาะสมเป็นระยะเวลานานโดยไม่รู้สึกตัว ด้วยเหตุผลดังกล่าวคนที่มีลักษณะควรจะรักษาด้วยตัวเองก่อนในพื้นฐาน โดยเปลี่ยนแปลงความประพฤติปฏิบัติให้สมควรตามคำแนะนำต่อไปนี้

  1. ขณะใดที่เริ่มรู้สึกอ่อนเพลีย ควรจะพักทุก 1 ชั่วโมง จากการทำงาน เพื่อบรรเทาร่างกายแล้วก็สมอง อย่างเช่น กระพริบตาเสมอ ๆ ยืนขึ้นยืดเส้นยืดสายราว ๆ 5 นาที หรือเดินไปสูดอากาศภายนอกบ้าง เพื่อเป็นการพักไม่ให้กล้ามเนื้อตึงกระทั่งเริ่มมีลักษณะของการปวด
  2. ปรับท่าทางการนั่งให้ถูก รวมถึงปรับเครื่องไม้เครื่องมือในที่ทำงานให้เหมาะสมกับหัว ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้ หรือการจัดวางคอมพิวเตอร์ล้วนส่งผลต่อท่านั่ง ควรจะปรับองศาให้ถนัด โดยจะไม่รู้สึกว่าจำเป็นต้องยกตัวหรือก้มตัวตลอดเวลาทำงาน เวลานั่งเท้าจำต้องวางบนพื้นได้พอดี แม้ว่ายังไม่ถึงต้องมีที่รองเท้ามาช่วยเสริม
  3. บริหารร่างกายบ่อย ๆ จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงแล้วก็ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ ทำให้ลดความเสี่ยงเป็นออฟฟิศซินโดรมให้ลดน้อยลง
  4. ฝึกฝนการเหยียดยืดกล้ามเนื้อรอบ ๆ ลำตัว โดยการประสานมือเข้าด้วยกันแล้วยืดมือออกไปข้างหน้า แล้วหลังจากนั้นค่อยเอาขึ้นข้างบน โยกไปทางซ้ายรวมทั้งขวา
  5. แม้เปลี่ยนความประพฤติแล้วลักษณะของการปวดกล้ามเนื้อยังไม่ดีขึ้น ปวดเรื้อรัง ปวดจนกระทั่งนอนไม่หลับ ปฏิบัติงานไม่ได้ มีแขนขาอ่อนเปลี้ยเพลียแรง ควรจะรีบขอคำแนะนำหมอ เพื่อรับการตรวจประเมิน รักษาโดยการใช้ยา และก็กายภาพบำบัดร่วม 3-7 ครั้ง ซึ่งต้องพิจารณาถึงต้นเหตุรวมทั้งความร้ายแรงของโรค

แก้พฤติกรรมเสี่ยงออฟฟิศซินโดรม ความอ้วนนั้น นอกเหนือจากการที่จะมาจากความประพฤติการกินที่ไม่เหมาะสม กรรมพันธุ์ หรือโรคบางโรคแล้ว การนอนดึกดื่น ก็เป็นเหตุทำให้น้ำหนักเพิ่มมากขึ้นได้เหมือนกัน แถมยังมีผลต่อความสูงของพวกเราอีกด้วย

ปัจจัยที่ทำให้อ้วน

  1. ฮอร์โมนเครียดสูงมากขึ้น

ฮอร์โมนเครียดคอร์ติซอล จะหลั่งมากเพิ่มขึ้นในวันต่อมา ภายหลังที่พวกเรานอนมืดค่ำ และก็กระตุ้นให้ต้องการขนม ๆ หรือน้ำตาลมากยิ่งกว่าเดิม

  1. ฮอร์โมนหิวมากเพิ่มขึ้น

การนอนดึกดื่นทำให้ฮอร์โมนเกรลิน หลั่งมากขึ้นด้วย ก็เลยหิวมากกว่าเดิม

  1. ฮอร์โมนอิ่มลดน้อยลง

เมื่อนอนมืดค่ำ ฮอร์โมนที่ช่วยให้เรารู้สึกอิ่มจะหลั่งลดน้อยลง ทำให้ทานเยอะแค่ไหนก็ไม่ค่อยอิ่ม

ส่วนต้นสายปลายเหตุที่พักผ่อนดึกดื่นแล้วทำให้เตี้ย เนื่องจากว่า…สำหรับวัยรุ่น ช่วงนอนเป็นเวลาที่โกรทฮอร์โมนหลั่งออกมา รอกระตุ้นร่างกายให้ยืดขยาย แม้กระนั้นหากนอนมืดค่ำ ๆ จะก่อกวนลักษณะการทำงานของโกรทฮอร์โมน ก็เลยอาจจะส่งผลให้เตี้ยกว่าที่ต้องเป็น

 

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว วัยไหน ๆ ก็ควรจะระวังตนเองให้มากที่สุด เพื่อเลี่ยงการป่วยเป็นออฟฟิศซินโดรม และลดผลกระทบจากการทำงานหรืทำกิจกรรมดึกดื่นจนส่งผลให้อ้วนง่ายขึ้น

 

ได้รับการสนับสนุนโดย.  ระบบฝากถอนเงิน Gclub